ตลาดรถในกลุ่ม B-SUV ในตอนนี้แข่งขันกันสูงมาก แต่ละค่ายต่างพัฒนารถให้ออกมาตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด รวมทั้งจัดเต็มในเรื่องของเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกสบายในการใช้งาน เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยให้ขับใช้งานได้มั่นใจมากขึ้น และทำราคาออกมาได้น่าสนใจตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ถือว่ามาแรงสุดในกลุ่มและน่าสนใจมากที่สุดเห็นจะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้ นอกจาก All New Haval Jolion Hybrid SUV จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ นั่นเอง
All New Haval Jolion Hybrid Suv เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2564 ตัวถังขนาดไม่ใหญ่โต แต่พอต่อการใช้งาน ดีไซน์สะดุดตา โดดเด่น มีความแปลกใหม่ จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบ มิติตัวรถ 1,841 x 4,472 x 1,619 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) พร้อมระยะฐานล้อ 2,700 มม. โดยเฉพาะจุดเด่นที่ไฟหน้าแบบ LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light กระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา หลังคาพาโนรามิคซันรูป และไฟท้าย LED ที่ให้มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ถ้ามองกันในเรื่องของการออกแบบแล้วล่ะก็..ถือว่าโดดเด่นที่สุดในกลุ่มนี้อีกด้วย
ส่วนภายในห้องโดยสารเป็นการออกแบบภายในแบบ 360 องศา ด้วยแนวคิด Future Intelligent Cockpit ที่ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารมีความโปร่ง กว้างขวาง นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และยังจัดวางอุปกรณ์ต่างเอาไว้ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อของ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลางแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX และระบบนำทาง ต่อด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย อาทิ เบาะนั่งไฟฟ้าด้านหน้าฝั่งคนขับที่ปรับได้ถึง 6 ทิศทาง ลำโพง 6 ตัว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวาและระบบช่องแอร์ด้านหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมไปถึงพื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งเบาะที่นั่งด้านหลังสามารถพับลงได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร
ขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดที่ 375 นิวตันเมตร ผสานการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ไฮบริดประสิทธิภาพสูงและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ สร้างการขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งประหยัดน้ำมัน มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) สามารถปรับโหมดการขับได้ 4 รูปแบบ คือ โหมดมาตรฐาน, โหมด Sport, โหมด ECO และ โหมดสภาพถนนลื่น ซึ่งจะมีการปรับการใช้พลังงานในการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละโหมด
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมด้วยเทคโนโลยี LEMON Hybrid DHT (Dedicated Hybrid Technology) ที่พัฒนาขึ้นโดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ยังครบเครื่องด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งฟังก์ชั่นการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) การสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM Application ตลอดจนระบบการช่วยเหลือและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ (Driver Assistance and Safety Systems) อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) การเข้าโค้งอัจฉริยะ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
เมื่อดูจากสเปคแบบคร่าวๆ ถือว่า All New Haval Jolion Hybrid SUV จัดทุกอย่างที่จำเป็นในยุคนี้มาให้ทั้งหมด ในราคาที่ทำออกมาได้ดีที่สุดในตลาด โดยมีจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น TECH ราคา 879,000 บาท รุ่น PRO ราคา 939,000 บาท รุ่น ULTRA ราคา 999,000 บาท เห็นราคาแบบนี้แล้วถือว่า คุ้มค่า คุ้มราคาจริงๆ